หากใครจำได้กับเกม Theme Hospital แล้วละก็ เกม Two Point Hospital นับได้ว่าเป็นเกมที่อัพเกรดมาเลยก็ว่าได้ ทั้งรูปแบบของห้อง โรคร้ายที่แสนจะประหลาดปนฮา การออกแบบที่แสนจะน่ารักปนกวนโอ๊ย ระบบการเล่นที่ไม่ยากและแสนจะเข้าใจง่าย นี้คือสิ่งที่คุณคาดหวังได้ในเกมนี้ได้เลย
แม้ Two Point Hospital จะละม้ายคล้ายคลึงกับ Theme Hospital แต่มันคือคนละเกมกันในหลายแง่มุม
เราจะได้รับหน้าที่เป็นผู้บริหารตามโรงบาลต่างๆ ที่กำลังประสบปัญหาแตกต่างกันไป! ความท้ายทายคือการที่เราต้องรับมือกับความต้องการและปัญหาที่แตกต่างกันไป บางโรงพยาบาลอาจจะมีภัยพิบัติมาควรแทรกให้เราต้องระมัดระวังตลอดเวลา รวมถึงความต้องการทั้งจากตัวผู้ป่วยที่อยากให้เรารักษาให้หายขาดจากโรคประหลาด?! บุคลากรของเราก็ต้องดูแลพวกเค้าให้มีความสุขและทำงานได้อย่างเต็มที่!
เกมนี้…สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและก็ผู้ใหญ่ เพราะมันเป็นเกม Management simulation ที่มีความยากง่ายไล่ตามลำดับ(แม้ว่าความยากบางอย่างจะแปลกๆก็ตาม) โดยตัวเกมจะมีการแบ่งลำดับการรักษาไล่ตั้งแต่ การวินิจฉัยโรคเบื้องต้นแบบต่างๆ ทั้งพบแพทย์ทั่วไป การ X-Ray การพบจิตแพทย์ และอื่นๆอีกมาก เมื่อวินิจฉัยจนแน่ใจแล้วว่าป่วยเป็นโรคอะไร ทางทีมแพทย์ก็จะส่งให้รักษาตัวให้หายขาดต่อไป
ไฮไลท์ที่ผมชอบจริงๆของเก็บนี้คือ โรคประหลาดมากมายที่ทำออกมาได้ตลกและน่ารักมากๆ ทำให้เราลืมความปวดหัวจากภารกิจได้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นไอโรคหัวหลอดไฟ โรคหลงตัวเอง โรคตัวซีด โรคหน้าหม้อ และอื่นๆอีกมากมายให้คุณได้มารื่นรมณ์ นอกจากรูปลักษณ์มันที่ตลกแล้ว…อุปกรณ์ในการรักษาโรคเองก็หรรษาไม่แพ้กัน ดูกีทีก็เพลินทุกครั้งจริงๆ
ตอนเล่นช่วงแรกผมรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน กับ 3 โรงพยาบาลเป็นอย่างมาก ด้วยระบบการสร้างห้องที่น่ารัก สามารถตกแต่งห้องให้สวยงามด้วยสิ่งของต่างๆ นอกจากนี้ระบบการสอนบุคลากรให้เก่งกาจ ระบบการวิจัยช่วยให้เรารักษาโรคต่างๆให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งเล่นยิ่งสนุก!…แต่มันมีก็มีจุดกวนใจเรื่อยมาและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนผมไม่อยากที่จะแนะนำเกมนี้ให้ใครได้ซื้อมาเล่นซักเท่าใดนัก
มหกรรมบัคและความไม่สมเหตุสมผลของเกม…นี้คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของเกมนี้ มันได้ทำลายความเพลิดเพลินในการเล่นอย่างสิ้นเชิง ความหงุดหงิดมันเริ่มมากจากบัคในเกมต่างๆ เช่น การที่คนไม่สามารถเข้าหาวัตถุที่ต้องการเข้าไปได้ การที่คนป่วยและคนไข้ยืนงงซ้อนๆกันเยอะๆในห้องพยาบาล การที่คนไข้บ่นว่าหิวน้ำ/หิวข้าว /คิวนานทั้งๆที่เพิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล(อันนี้นับเป็นบัคสำหรับผม)?! ด้านความไม่สมเหตุสมผล ได้แก่ ภารกิจแบบ 3 ดาวที่ไม่ยากแต่เสียเวลาในการเล่นที่มากเกินไป การออกแบบภารกิจที่ช่วงหลังไม่สร้างสรรค์และซ้ำๆไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย
ด้วยความที่เกมราคาประมาณ 800 บาท การที่ได้รับประสบการณ์แบบบัคๆ รวมถึงภารกิจที่จำเจซ้ำๆอย่างไร้ปราณี… มันทำให้ผมรู้สึกเสียความรู้สึกที่ดีมากๆในช่วงต้นๆของเกมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แม้จะพยายามมองหาจุดแข็งมาข่มจุดอ่อน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมจึงแนะนำว่าถ้าใครคิดถึงแนวเกมสร้างโรงพยาบาลแบบนี้ รอเกมนี้ลดราคาเหลือซัก 299 บาท ถึงพอที่จะคุ้มค่าสำหรับการเล่นแบบไม่คิดอะไรให้มากมาย ยกเว้นว่าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้…ผมจะแนะนำให้เล่นผ่านเฉพาะการสร้างโรงบาลให้ได้แบบ 2 ดาวในทุกๆด่านก็พอ เพราะขอบเขตของ 3 ดาวนั้นมันช่างไร้ความสนุกยิ่งนัก!
ข้อดี
– แอนนิเมชั่น ทำได้ออกมาน่ารักมากๆ
– โรคร้ายที่กลับดูน่ารักมากมาย…ให้คุณได้ตลกและดูเพลินสุดๆ
– ระบบการเล่นที่เข้าใจง่าย เล่นได้ทุกเพศทุกวัย
– มีด่านให้เล่นหลายด่าน ความท้าทายหลายแบบให้ได้ลองแก้ไข
– เพลงในเกมน่ารักฟังเพลินๆจ้า(แม้ว่าจะซ้ำๆวนๆไปก็ตาม ฮา)
ข้อเสีย
– บัคหยุมหยิม เยอะแยะมากมาย
– ระบบภารกิจ 3 ดาวที่ไร้เหตุผล เสียเวลาโดยใช่เหตุ (และเมื่อรวมกับบัค…ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่)
– เมื่อปลดของครบ…”ความจำเจ” ในการแต่งห้องเพื่อหวังผลก็เข้ามาทดแทน
– จำนวนด่านก็จริงเยอะ แต่ภารกิจหลังๆมันจำเจเกินไป ไม่ท้าทาย
สรุป
แม้ข้อดีจะมากมายเพียงใด แต่หากบัคและความไร้เหตุผลของเกม มันรุนแรงเกินไป… อย่างไรเสียเกมดีๆก็จะพังในไม่ช้า ด้วยราคาประมาณ 800 บาท ผมจึงไม่แนะนำอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองท่านใดจะซื้อให้ลูกหลานของท่านเล่นเกมนี้ เพราะรั้งแต่จะทำให้ท่านปวดหัวกับการอธิบายวิธีคิดที่ดีๆจากเกมนี้ต่อเด็กๆได้ แต่ถ้ามันลดราคาเหลือซัก 299 บาท มันก็พอรับได้กับความรู้สึก “คุ้มค่า” กับประสบการณ์ที่ได้รับจากการเล่นเกมนี้ และหวังว่าทางผู้พัฒนาจะออกแพทช์แก้ไขข้อเสียในอนาคตด้วยก่อนที่จะเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้
คะแนนรีวิวจากเป็ดบ้า: 6/10